วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2554

บทเพลงและความทรงจำนำมาใช้ชีวิต

  ธรรมชาติเป็นสิ่งที่สวยงามเที่ยวอย่างมีสติช่วยกันรักน้ำรักป่ากันนะครับ แค่ไม่เพิ่มขยะแค่นี้ก็น่านับถือแล้ว

จากทีมงาน Outdoor High Power club

วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554

รอบนี้ไม่ตก..ลากครับลาก อ๊ากๆๆๆ อันดามัน หน้าหาดบางสักพังงา

   ประมาณกลางๆเดือน พฤษจิกายนของทุกปีจะเป็นฤดูกาลของนักล่าฟ้้าอันดามัน....เอาง่ายๆคนพื้นที่เค้าจะดู เทศกาลกินผัก (กินเจ) ผ่านพ้นไป ท้องทะเลก็เงียบสงบ ออกลุยตกปลากันล่ะครับ แต่บทความที่จะมาเล่า คือการล่าหา พญาอินทรีย์ หมายถึงปลาอินทรีย์นะครับไม่ใช่นกที่บินอยู่บนกระสอบปูน เหอๆๆๆ.......ปลาอินทรีย์จะเข้าไกล้ฝั่งประมาณเดือนมกราคมครับ เป็นช่วงที่กุ้งเคยเข้า ฝูงปลาเล็กก็ตามมา ปลาอินทรีย์ก็มาด้วย....นี่แหละธรรมชาติ การใช้เหยื่อเดี๋ยวกระผมค่อยกล่าว บทความต่อไปนะครับ ที่ผมใช้โดยมาก ก็ Lapala เขียวเหลือง/ขาวหัวแดง  เหยื่อเจ๊ต สีขาวแดงชมพู แต่ที่แน่ๆ ปลาทูครับ เอามาผ่าท้อง มัดลวด อันนี้แน่นอน ผมกับน้องเหน่ง ตากิต ก็ไปกัน 4 คน ลากกันทั้งอ่าวล่ะครับ ผมขับเรือ การหาง่ายๆก็คือ ถ้าเห็นฝูงนกลงกินลูกปลาก็ให้วิ่งหาลากผ่าน เฉี่ยวๆนะครับเดี๋ยวเป็นการไล่ปลาหนี ได้ไล่กันน้ำมันหมดถังแหละ อิอิอิ  วันนั้นก็ซัดอินทรยี์มาแค่ 2ตัว ตัวแรกครับ 9.5 กิโลกรัม และปลาสากขนาด 4 kg อีก 2ตัว เริ่มลากเช้าๆจะดีครับเที่ยงก็กลับ ร้อนครับไม่ใช่อะไร แต่ช่วงเช้าจะดีกว่าครับ

 ปลาตัวแรกตกได้ดดยผม นายแบบหิ้วปลาแบบว่าหนักๆอ่ะ อิอิ ตัวนี้กัดลาพาล่า ขาวหัวแดงครับ ของผมเอง ตัวนี้ได้บริเวณหน้าปากน้ำหมู่บ้านน้ำเค็ม ข้างเกาะผ้า



ตัวที่ 2ก็ของนายโต้งครับ อันนี้ถ่ายคลิปไว้ แต่ตัวแรกไม่มีใครถ่ายให้ผมเลยครับใจดำๆ ตกใจกันครับพอได้ปลาก็ลืมกันหมด 555+ ตัวนี้ก็ ขนาด 9.2 kgครับ
          แล้วก็กลับกันครับเพราะน้ำมันจะหมดแล้ว   ค่อยเจอกันใน บทความหน้านะครับ
 ...บทความโดย นายเดย์ คนเดิม ไปนอนดีกว่า ง่วงแระ บ่ายครับ



เพื่อนบ้านที่แสนดีใจดีทุกคน

วันอังคารที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เรื่องเก่าเล่าใหม่ เที่ยวเชี่ยวหลานแบบบ้านๆ

บทความโดยเหน่ง
เรื่องเก่าเล่าใหม่  เที่ยวเชี่ยวหลานแบบบ้านๆ            สวัสดีครับทุกท่าน สำหรับทริปนี้ผมมีเรื่องราว การเที่ยวป่าตกปลามาฝากทีมงานทุกคนที่ชื่นชอบ

การใช้ชีวิตกลางแจ้ง ติดตามชมเลยครับ


 <<<  ภาพที่ 1      เส้นทางที่เราใช้นี้เป็นเส้นทางที่ชาวบ้านในพื้นที่
ใช้ในการเข้าไปหาปลายังต้นน้ำ ปัจจุบันถูกสั่งปิดถาวรแล้ว
เพราะมีคนบางกลุ่มแอบลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ป่า


                ภาพที่ 2 ระหว่างทาง
                 มีไม้ใหญ่ล้มขวางทางเป็นระยะ   >>>

ภาพที่ 3   จากจุดจอดรถนี้เราต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 500 เมตรครับ จึงจะถึงที่ที่พวกเราจะพักแรมกัน
ภาพที่ 4 มาถึงก็จัดการกับที่พักก่อนเลย เห็นหมายตกปลาแล้วก็นึกเสียดายที่ผมไม่ได้เอาชุดอุปกรณ์ตกปลาของผมมาด้วย ที่เห็นเป็นของพี่เสน่ห์ ซึ่งมีเหยื่อปลอมอยู่ไม่กี่ตัว และไม่เหมาะจะใช้ตกชะโดเลย




ภาพที่ 5 กระสูบตัวแรก เปิดทริปของผมเอง ข้างแค้มป์ที่พัก            
   ภาพที่ 6 เตรียมตัวออกล่า ไม่กลัวแดดเลย
พี่เสน่ห์คนนำทางของพวกเรา คนที่ถอดเสื้อ >>>>>
ภาพที่ 7 หนทางอีกยาวไกล










ภาพที่ 8 ผ่านไปครึ่งวันกับกระสูบ 1 ตัว ผลงานพี่เสน่ห์ ส่วนผมแห้วเต็มลำเรือ อ๋อ...ลำแพ
 
ภาพที่ 9 ส่วนนี่เป็นผลงานพี่เสนอ พี่ชายพี่เสน่ห์  ปลาหมอช้างเหยียบ แกตกอยู่แถวที่พัก

ภาพที่ 10 สังสรรค์กันในคืนแรก หงส์ทองจงเป็นพยาน

             ภาพที่ 11 บรรยากาศยามเช้าเย็นสบาย ชะโดขึ้นให้เห็นอยู่หลายตัว แต่ไม่มีปัญญาจะเอามัน





   ภาพที่ 12 มุ่งหน้าสู่แพพักของป่าไม้ แพของเราจะรอดหรือเปล่านี่
ภาพที่ 13 ชีวิตไม่สิ้นหวัง มีโอกาสพี่เหน่ก็จะลุกขึ้นปั่นทันที

ภาพที่ 14 ผ่านไปกว่าสองชั่วโมงเราก็มาถึง
 
 

ภาพที่ 15 พี่สามขอบ้าง

ภาพที่ 16 ระหว่างนั้น ก็มีนักท่องเที่ยวชาวต่างด้าวเข้ามา เรานั่งพักเติมพลังอยู่พักใหญ่ จึงหันหัวแพกลับ

ภาพที่ 17 อยู่ต่อกลัวก่อคดี  บ๊าย...บาย... ยู


<<<<<<<<< ภาพที่ 18 ขากลับ พี่เหน่ก็ยังปั่นไม่เลิก

ภาพที่19 กลับมาได้ไม่นาน พี่เสนอก็สร้างเรื่องจัดกระสูบมาสอง ชะโดอีกหนึ่ง คงเซ็งที่ถูกปล่อยให้อยู่เฝ้าเต็นท์คนเดียว พี่สามฉวยมาถ่ายภาพก่อนเลย



ภาพที่ 20 ผมขอบ้าง ตามหามาทั้งวัน มาแอบอยู่แถวที่พักเรานี่เอง

 ภาพที่ 21 ปลาที่ได้ของวันนี้ ของพี่เสนอล้วนๆ อายจัง






ภาพที่ 22 ไข่ปลาหงส์ทอง บรรยากาศจะดีแค่ไหน แต่ถ้าขาดสิ่งนี้ไปคงแย่แน่ๆ




ภาพที่ 23 มันน่าตีเหยื่อจริงๆ
      ภาพที่ 24 ดิบใช้ได้










ภาพที่ 25นี่ก็อีกมุมหนึ่งของมือสังหารปลาหมอช้างเหยียบ หาปลากลับไปฝากที่บ้านวันนี้ เราต้องกลับกันแล้ว
ภาพที่ 26 เดินทางกลับกันแล้วนะ พร้อมกับความสุขกันเต็มอิ่ม












ภาพที่ 27 ตะกั่วป่าคือจุดมุ่งหมายของเรา














แล้วเจอกันทริปหน้า อีกไม่นานเกินรอครับบทความโดยกระผม


เหน่ง (ธีระพล  ไชยจันลา)   สวัสดีครับ

ไตรภาค.สิมิลัน.อันดามัน.ชื่อนี้ไม่มีเหงา!!!!!!!

ภาคที่ 2 ภารกิจ มิตรภาพเพื่อน หัวใจไต๋ ความหวัง

       เรา มาเริ่มเรื่องราวในบทที่ 2 กันต่อหลังจากบทที่แล้วเราแนะนำให้รู้จักกับเอกบุรุษที่น่าเคารพ ส่วนในบทนี้จะกล่าวถึงทีมงานกับไต๋และเรือเป้าหมาย......
.......... ถ้าพูดถึงปูจั๊กจั่น...หลายต่อหลายคนอาจจะไม่เคยได้เห็นไม่เคยรู้จักเพราะปู จั๊กจั่นจะมีอยู่ทางฝั่งทะเลอันดามันแหล่งน้ำลึกระดับ 80 เมตรจน 100 กว่า ก็มี มีขายตามจังหวัด กระบี่ ภูเก็ต พังงา  แต่ท่านลองคิดดูสิว่าที่เค้านำมาขายความสดอาจลดน้อยลงไปแล้วเพราะว่าผ่าน การต้มแล้วมาตั้งรอให้คนมาซื้อ พ่อค้าแม่ค้าจะไปซื้อปูคัด(ปูขาขาด)ซึ่งผมมารู้ว่าปูขาขาด ส่งออกนอกประเทศไม่ได้ จะตกอยู่กิโลละ 40-60 จากเรือลูก แล้วมา 60-80 ที่พ่อค้าแม่ค้า ส่วนปูที่คัดเกรดจากเรือลูก ถ้าเป็นตัวใหญ่ๆ จะกิโลหลายบาทตามขนาด เมื่อเรือแม่มาถึงก็ทำหน้าที่คัดปูน็อกน้ำแข็งแช่เย็นที่ห้องหัวเรือ  แล้วจากนั้น นำไปคัดบนบกอีกครั้งหนึ่งเพื่อแบ่งเกรด เข้าฟาร์มปูและส่งสู่พ่อค้าส่งขายปลีกย่อยหรือโรงแรม
.......... ปูนำเข้าที่ฟาร์มก็จะนำมาฟื้นด้วยน้ำเค็มขัดสีฉวีวรรณ แพ็กลง กล่องอย่างดีทำการน็อกน้ำแข็งอีกรอบครับทีนี้เพื่อเตรียมสู่กระบวนการส่งออก ทางเครื่องบิน จากที่ผมสอบถามบอกว่าส่งออกไปประเทศใต้หวัน จากเมืองไทยกิโลละ80-120 พอไปถึงใต้หวัน จะเปลี่ยนเป็นกิโลละ 1000 หรือมากว่านั้นเลยทีเดียว ทำให้การจับปูจั๊กจั่นเป็นงานที่น่าลองอีกงานหนึ่ง
............ แต่ทะว่าไม่ใช่ทุกคนนะครับที่จะประสบผลสำเร็จหากขาดประสบการณ์ ความใจเย็น และกล้าที่จะเสี่ยงกล้าตัดสินใจ เพราะจากที่ผมรู้จักไต๋คนนึง "ตรี" คือไต๋เรือปูจั๊กจั่น >>ชัยนุชิต 7 << การศึกษาจบวิทยาลัยเกษตรพังงา อายุก็ถ้าปีนี้ 54 ก็ 29-30 ประมาณนี้ 
       ( ตรี )   มีบิดาเป็นคนหาปูจั๊กจั่น ที่สั่งสมประสบการณ์มามาก ได้อยากพักนอนกินอยู่บนผืนดิน จึงยกเรือให้ลูกชายคือ ตรี เป็นผู้ทำแทนโดยพ่อจะคอยดูแลเป็นพี่เลี้ยงในช่วงแรกๆ แล้วก็ปล่อยให้ตรีลงมืออย่างเต็มที่

<<<ไต๋ตรีกับเรือลำใหม่ ชัยนุชิต 7 

         ตอนแรกๆก็มีบ้างธรรมดามือใหม่ครับตรีบอกแต่ ณ ปัจจุบัน ผมว่าตรี หาตัวเทียบยากครับ เพราะจากที่ผ่านมาปี ปี 53 ซื้อเรือมา ล้านกว่าจับ 3 เดือนครับ หลุดค่าเรือ แล้วก็ได้ข่าวว่าวันหนึ่งตรีจับได้มากถึง 3 ตัน ซึ่งหาเรือที่จะได้เท่านี้ในการจับปู ยากครับ
  เมื่อตอนตรีเป็นใต๋   ตรีอยู่ประจำเรือ ชัยนุชิต 9 แต่ตอนนี้ให้ พี่แรม ซึ่งเมื่อก่อนขับเรือแม่ มาทำจับปูแทน พอซื้อลำใหม่ แม่เจ้า เบ่อเริ่มเทิ่มครับ
ห้อง โดยสารกว้างลุกนั่งได้ ซึ่งไต๋ตรีว่าแรกๆขับยาก แต่ผมไม่เห็นว่า ตรีขับเรือยากครับ ที่เห็นๆ คล่องกว่าขับรถซะอีก เพราะว่าชีวิตเรือปูก็จะอยู่ในน้ำครับ มีเวลาขึ้นฝั่งน้อยถ้าอยากรวย
ฤดู กาลจับปูนาน  ก็ประมาณ สิงหา-กันยา ก็เริ่มออกจับแล้วล่ะครับไปหยุดช่วงเดือน กุมภา-มีนาซึ่งเป็นช่วงปูถอย และเหตุการตามธรรมชาติ เช่นน้ำเสีย น้ำเดินเปลี่ยนทางอยู่บ่อยๆ วึ่งจะทำให้การจับปูไม่มีประสิทธิภาพแล้วเสี่ยงต่อการขาดทุน ถ้าทำแล้วขาดทุนก็ หลบเกาะนอนเฉยๆ ดีกว่า แฮะๆๆ  แตขอโทษครับผมเคยมา 2ครั้งก่อนหน้านี้ ลำ 9 โอ้โห พี่น้อง เพอร์เฟกสตร์อม ครับ คลื่นแต่ละลูกยืนไม่ติดท่วมหลังคาบ้านกระผมทำไงล่ะนออย่างเดียวครับเมาเรียบ ร้อยไปเลย.....ตรีบอกว่าทำงานได้ แต่ผมกับทีมงานงี้ขนชันเป็นเม่นเลยล่ะครับ.....
  




















......................ดูความใหญ่ของเรือครับ...................
           การที่ว่าจะเป็นไต๋เรือปูได้นั้น ผมเห็นในคุณสมบัติของตรีครับ ใจดี มีเมตตา ด่าแต่พองาม กับคนงานพม่าซึ่งไม่ต้องพกปืนเลยครับ แล้วกล้าที่จะตัดสินใจ มีอยู่ครั้งนึง ลง 2รอบจับปูไม่ได้ตามเป้า คิดๆแล้วน่าจะขาดทุน ตรีตัดสินใจวิ่งข้ามแนวเลยครับใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง นั่นคือเวลาที่วางปูในวันนี้ช่วงบ่ายอีก 2 รอบนะครับ มาถึงวาง รอบเดียวนี่แหละตรี เอ่ยออกมาอย่างหนักแน่น แม่เจ้าพอสาวแผงขึ้นมาแผงแรก 4 ตัวครับ แผง 2 ประมาณ10 ตัว ผมหันไปมองหน้าตรีที่นิ่งดูแผงที่ขึ้นมาอีกต่อๆไปหมดชุดแผงไปชุดแรก ได้ปูไม้ถึงเข่ง บรรยากาศเงียบมีแต่เสียงตรีสั่งพม่า"เอ้า"ให้ดึงแผงเบาๆ พระเจ้าช่วยกล้วยทอดเอ้ย..ไม่เกี่ยว ปูครับเต็มแผงๆ จนผม แห้ง เหน่ง ตากิต ต้องไปช่วยปลด เพราะไกล้จะค่ำลูกเรือปลดไม้ทันขึ้นมาครบทุกแผง มีรอยยิ้มครับคัดและชั่งลงเรือแม่ปรากฎว่า1 ตัน 6 ครับ มีกำไรมาเป็แสนแระครับ........นี่แหละครับไต๋ตรี แล้วในทริปนี้ ระหว่างวิ่งลากเหยื่อผมกับตรีคุยกันเล่นว่า ตรี ถ้าน้ำ                                   

ระดับ 60- 70 น่าจะมีไหมตรี ตรีว่ ไม่รู้เหมือนกันต้องลองดู แล้วผมก็พูดว่าถ้ามีก็ดีนะ ตรีว่าผมจะไม่ไปไหนเลยเอาแถวนี้แหละไกล้ฝั่งไม่ต้องไกล5555+ หัวเราะกันสนุกเฮฮา  โดยผมก็ลืมไปเลยว่าผมได้พูดอะไรไว้ พอมารู้วันหลังตรีบอกว่า เดย์ ปูแถวนั้นน่ะมีนะแต่น้อยต้องขึ้นไปอีสักนิดในแนวเดียวกัน จับได้ 2 วัน 6ตัน 2 วัน 4 ตัน 5 ตัน ผมทำตา งงๆ พอนึกออก  โหยยยนี่แหละครับ ตรีเป็นคนที่เปิดความคิดของตนเองเพื่อรับความคิดของคนอื่นมาทดลองนำไปทำเป็น การบ้านจนประสบผลสำเร็จอย่างที่ไม่มีเรือลำไหนเทียบ เพราะว่าเรือลำอื่นไม่หัดพลิกแพลง วิธีหรือแนว
ปี นี้จับตรงนี้ ปีหน้าก็จับตรงนี้เพราะเคยได้ตรงนี้แต่สำหรับตรีครับไม่ใช่เลย  ขอบอกแล้วตรีจะไม่ค่อยร่ววงกับเรือลำอื่น พอเพรือลำไหนได้ปูก็สื่อสารบอกกันเรือหลายลำก็จะไปรุมแนวนั้นกัน ซึ่งทำให้เกิดการแชร์ปู ปรากฏว่าปูที่จับได้แต่ละลำน้อยนะสิครับ  ดูขนาดคนกับเรือแล้วกันครับ
 
                   ที่นี้เรามาพูดถึงเรื่องตกปลากันบ้านะครับ ....หลังจากลงเรือมาแล้วก็มุ่งหน้าสู่เกาะสิมิลันครับท้ายเกาะ 9 พอถึงที่หมาก็หายอดหินแล้วลงสมอ ตากิตก็ลงเหยื่อก่อนใครเลย เร็วขนาดปรากฎว่าไม่ถึง 30 วิครับปลาตัวแรกก็ชาร์ทเข้าให้
อัดเข้ามามีสู้บ้างกดบ้างน้อยๆ ก็เล่นเอาชุดใหญ่ลงนี่น่า ตากิต เอาปืนไรเฟิ่ลไปยิงนกกระจอก
เป็นปลากระพงปากขวดขนาดงามครับ
   
                                            
ก็ อัดกันทุกคนล่ะครับมีสากบ้าง ตาเหลือก ตะมะ หัวเสี้ยม อั้งเกย ขนาดไม่ใหญ่ครับ กินห่างๆ แต่ไม่เหงา ต่างคนค่างตกอัดกันจนลืมถ่ายรูปละครับตอนนี้มือก็คาว 555+ ขอตกให้หนำก่อนล่ะกันก็ตกกันถึงประมาณ ตี 2 ตี 3 ก็เริ่มหนีกันเข้านอนทีละร่างๆ ส่วนกระผม ตกจนตี 5.30 ครับหมดแรง ขอพักนิสสสส ตื่นมาอีกที 555+ 10 โมงเช้าแล้ว เพื่อนเค้า สาวตาเหลือกกันเป็นลังๆแล้ว
ไม่รู้ว่าหมดแรงหรือหมดสภาพละครับ ดูๆแล้วพิจจารณาให้ด้วยล่ะกัน
ก็ดึงกันครบกระบวนล่ครับไม่เหงาแล้วก็มีลากปลาระหว่างเปลี่ยนหมายไปกองซั้ง
ก้ได้สาก อีโต้ อินทรีย์ตัวเล็กๆ 










   

ไตรภาค.สิมิลัน.อันดามัน.ชื่อนี้ไม่มีเหงา!!!!!!!


ภาคที่1 การเดินทางเรือแม่ ปูจั๊กจั่น การต้อนรับมิตรภาพที่ดี
 
             ทริป ที่ จะกล่าวต่อไปนี้เป็นทริปที่จัดขึ้นกันแบบไม่ได้ตั้งใจอีกแล้ว แต่ผลที่ออกมาถือว่าชัดเจนและอยู่ในความเหลือเชื่อ หรือว่า พูดแบบง่ายๆ เลยนะครับพี่น้องคือว่าไม่น่าเป็นไปได้ ฟลุ๊คป่าวว่ะ  ทำนองนั้น แต่ที่ไปเพราะใจรักกันทั้งนั้นถึงแม้ว่าไปแล้วจะผิดหวังเล็กๆน้อยๆแต่ มิตรภาพสิครับที่ยิ่งใหญ่  
       การที่จะเป็นไต๋เรือที่ยิ่งใหญ่ได้ต้องมาจากความมุมานะ การรอบรู้ ความฉลาด จดจำ วางแผน ไม่ย่อท้อ โอ๊ยๆๆๆอีกเยอะแยะเล่าไปก็ไม่ลึกซึ้ง เรื่องของเรื่องในทริปนี้ผมจะเล่าถึงการตกปลาที่สิมิลัน และควบคู่ไปกับชีวิตของไต๋เรือปูจั๊กจั่นผูที่ไม่เคยยอมแพ้ และถือว่าเป็นไต๋เรือที่อายุน้อยแต่ฝีมือ รุ่นพี่ยังต้องอาย 5555+  เริ่มจะสนุกขึ้นมาล่ะสิงั้นไปชมกันต่อเลย
       
              หมู่เกาะต่างๆที่สวยงามวิ่งเรือผ่านเลยถ่ายไว้ภาพอาจจะไม่สวยเพราะว่าช่างฝีมือไม่ดี ก็ขออภัยด้วยนะครับ

  เป็นการนัดกันล่วงหน้าแบบนานมากสำหรับทริปนี้  ผมกำลังนั่งล้างรอกเล่นๆยามสงบศึก ก็มีเสียงเพลง นางฟ้า-บ่าววี ดังแผ่วๆแล้วก้แรงขึ้นเรื่อยๆ ปั๊ดโถ่เสียงโทรศัพท์ของกระผมเองแหละ  ดูที่หน้าจอปรากฎว่าชื่อที่โทรมาคือ เพื่อนซี้ผมคนหนึ่งขี้เมาที่สุดๆๆๆ มิสเตอร์ เหี้ย !! เอ้ยยย....มิสเตอร์ แห้ง  ผมก็สงสัยแระว่าต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นแน่นอน  กดรับสาย 
    กระผม    " ฮัลโหล เทสๆๆ "
    แห้ง       " จะเทสทำกร๊วก เรอะ"
    กระผม     ทำหน้า  ..... -"-
   แห้ง         "ว่างม่ายยยยย   ไปสิมิลันไป "
    กระผม     " ไม่ค่อยว่าง จะไปวันไหน ต้องดูก่อน"
    แห้ง         "ต่อเช้า(พรุ่งนี้) 9.00 น เช้า "
             
               เมื่อได้ยินดังนั้น  หืดขึ้นคอครับ เป็นการบอกทริป แบบ วางแผนเตรียมตัวกันดีม๊ากมาก.....จะร้อง...เหตุผลคือว่างานยุ่งมากๆ แล้วฉ๊านนน จะทำเช่นไรผมก็ถามว่ามีใครไปมั่ง  ก็ว่า มี คุณสาม  กรู(แห้ง)   ตากิต(น้องบ่าวกินเหล็กสตาร์ทเครื่อง)  แล้ว กระผม โอ้แม่เจ้าถ้าไม่ได้ไปเสียดายตาย    เพราะว่าที่จะไปก็คือ เกาะ สิมิลันๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!!!!   ที่ๆนักตกปลาฝันถวิลหา  ซึ่งยานพาหนะที่จะอาศัยไปก็คือ  เรือแม่ รับส่งปูจั๊กจั่น....แหง่วววว...แล้วไปขึ้นเรือจับปูจั๊กจั่น  ขอบอกว่าลำเบื่อเร้อเท่อ!!!!!!! 
กระผมก็ วิ่งส้นติดหูไปขออนุญาติหัวหน้าว่า  ผมขอลาไปตกปลาครับ....ลูกพี่มองหน้า.... ไปสิไปพักผ่อนบ้างงงง...โอ้แม่เจ้า..ในใจนี่เต้นตุบๆ..อยากจะไปซะเดี๋ยวนี้ เลยว่างั้น แล้วผมก็ตอบตกลง แล้วรีบจัดแจงอาวุธ เช็คกระสุน...เหยยยย ...เช็ค สายเอ็นเตรียมชุดตกน้าดิน,ชุดโสกปลากลางน้ำ,และที่ขาดไม่ได้คือชุดทอลลิ่ง  พอรุ่งเช้าผมก็ผมก็บึ่งรถไปที่ตะกั่วป่าเพื่อรวบรวมพล แล้วก็นั่งรถต่อมาที่ท่าเรือทับละมุ  พังงา  
พอ มาถึงว่าก็จัดของลงเรือ แล้วก็หันมองดูรอบๆ อิอิ เรือติดแห้งซะล่ะครับพี่น้อง จะไปได้ัจังได๋  ก้ต้องรอน้ำขึ้น พอรอน้ำขึ้นประมาณ 2 ชั่วโมง จิ๊บๆ สำหรับความอยาก บรรไล เครื่องปั่นน้ำแข็ง เจ๊ง เอาเข้าไปชีวิต.....เหมือนจะมีอะไรไม่ดีๆเพราะขัดซะ ทนรออีก 1.30ชม.
อ่ะๆๆๆ ได้ไปแระเรือออกแระ  
      เรือแม่  ลำนี้เป็นของน้าเสม ซึ่งเป็นคนที่ใจดีมากครับ..ของที่อยู่บนเรือเพื่อขายให้กับเรือลูกครับเป็น การบริการทางทะเล แต่สำหรับทีมงานไม่มีคำว่าเงินครับ ...กินไปเลยจ่ายเงินโกรธ เนื่องด้วยมีความรู้จักสนิทสนมกันมาก่อน ส่วนไต๋เรือ ชื่อน้อง เอส ครับ อายุ สิบกว่าปี17 ประมาณนี้ถ้าจำไม่ผิดใจถึงเป็นกันเอง  เป็นลูกของน้าเสมมาทำหน้าที่แทนบิดา เห็นไหมครับวัยรุ่นแบบนี้สมควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

>>>เป็นการนั่งรอเรือหลุดจาก ตลิ่งแห้งครับ หาวคนละหลายดอก  เสื้อทหาร ก็คือ เสือแห้ง
เสื้อแขนยาวก้านยาวก็คือ ตากิต
เสื้อแดงนั่นก็ เดย์(กระผมแหละ)
สามคนถ่าย

เมือ การรอคอยสิ้นสุดก็คือ เรือออกเดินทาง ตั้งเข็มวิ่งไปที่ เกาะสิมิลัน ไต๋เรือแม่ก็บอกกับทุกคนว่า เฮ้ยย...ลากได้นะจะวิ่งให้ช้าๆ ไม่รีบ
ได้ยินดังนั้นทุกคนก็ ชักเบ็ดทอลลิ่งออกมา พร้อมกับเหยื่อคู่ใจ
ตา กิตกับผมก็ชัก หัวเจ๊ต...ประกอบมือเองงงงออกมาสีส้มขาว  คนละชุด นายแห้งก็ชักของแพงมาเล่นครับ เป้นเหยื่อ สตอร์ม ปลาสีน้ำเงินท้องขาว....ผมถาม "ไปซื้อมาเหรอ" เสียงตอบกลับมาครับน่าถีบให้ตกเรือซะนี่ "ป่าววว" " ยืมของไอ้เหน่งมา" แหง่วว..ลงทุนขนาด ทริปนี้น้องเหน่งของเราไม่ได้ลงเพราะว่า ลูกอ่อน พี่น้อง  ยังไม่ลืมตาครับ เอาเหอะค่อยทริปหน้าและกัน  น้องเหน่งก็เป็นคนขับรถรับส่งไปโดยหน้าที่

>>>>เรื่อเริ่มออกจากท่าเรือทับละมุวิ่งด้วยความเร็ว 7. น๊อต จะได้ลากปลาด้วย ชื่นใจกันถ้วนหน้า
 ซึ่งผมนั่งดูลาดเลาก่อนให้ตากิตลงเป็นคนแรก ร้อนวิชา หรืออาดกันแน่ไม่รู้แน่ชัด แต่น่าจะพอๆกันทั้งสองอย่าง




เรือ ยังไม่ทันจะพ้นปากน้ำเสียงแกร๊กๆๆๆๆๆๆ...ยาวๆหนักๆ ของเบ็ด Pen ของตากิตก็ดังเหมือนช้างเหยียบ เอาล่ะครับพี่น้อง ..ไต๋หันมาค้อน กรูยังไม่ทันได้เปิดเบียร์เลย ล่อซะแล้วไต๋ก็ชะลอความเร็วให้ตากิตอัดมาแบบหนักๆสบายๆไม่ได้สู้ครับปลาทอ ลลิ่งหมดโอกาสสู้ตั้งแต่งับเหยื่อแล้วมันจะมาสู้อีกทีเมือตอนที่จะเอามัน ขึ้นแหละครับ
  
แหม มันก้คือ ไอ้สาก ไซด์ 4.5 กก. ถือว่าเรียกน้ำย่อยไปล่ะครับ  ดูหน้าน้องตากิตสิครับ ภูมิใจขนาด ก็เจ้าตัวตกลูกปลามา 2เดือนเต็มครับ 55+ เพราะหน้ามรสุม ทำไงได้ ต้องรอโอกาสดี น่านฟ้าเปิด ทะเลเงียบ ไม่งั้นก็ หนาวกันล่ะครับ ออกทะเลโดยพะละกาล
เรือ วิ่งออกมาอีกได้สัก 15 นาที เอาล่ะครับ นายแห้งก็ตะโกนว่า โอ๊ยๆ กินแล้วๆ หันไปดูกำลังดึงสายมือเบอร์ 200 ผูกเหยื่อ สตร์อม สายนี้ตึงเปรี๊ยะแต่หมดสิทธิ์ขาดครับ 200 ก็เท่ากับสายเมาท์คอมของท่านแหละครับ หันไปดูปลานี้ลอยละลิ่วปลิวมาบนผิวน้ำก็ตะโกนบอกไต๋เรือให้ชะลอ  น่าสงสารปลาครับปากจะฉีกซะ
นี่ พอลากมาถึงข้างเรือก็เป็นเจ้าสาก 5 กก ครับ  ง่าาา สากชุม ผมยังไม่ได้ลงเหยื่อครับงานนี้ห่อหมกสากคงขายดีแน่ 555+ เพราะว่าฝีมือการทำห่อหมกปลา โดยเฉพาะปลาสากนี้   ป้าตรี/กรี แล้วแต่คนเรียก มารดาหรือว่าคุณแม่ของ ตากิต ทำอร่อยมากๆครับ ขอบอก
>>>ส่วนกระผม 555+ ช้ากว่าเพื่อน คือ ต่อให้ก่อนว่างั้นอิอิ ป่าวหรอก กินเบียร์อยู่กับ สาม
เออ..สาม น่ะเค้าไม่ลากครับมือใหม่ตอนนี้เค้ากำลังต่อสู้กับพิษเมาเรืออยู่ หน้าซีดเชียว แต่แก้เคล็ดครับ กินเบียร์ให้เมาซะเลย 555+ ก็ดีไปอย่าง เฮ้อ...แต่ล่ะคน   .............................พอพูดกระนั้นเสียงรอกยี่ห้อโนเนมแต่อึด แข็งระดับลากเรือ ลอบหมึกเข้ามาหาทั้งลำก้เคยทำมาแล้ว รึว่าอึดลอบหมึกหนักประมาณ 150 กก. ขึ้นมาจะเอ๋เล่น(ตาเบ็ดไปเกี่ยวลอบของเค้าเอง) 
เสียงดังแกร๊กๆๆๆๆแดร๊กตัวโอ ดังสนั่นล่ะครับ
          ลองอัดเข้ามาเบาครับ ขนาดเรือยังไม่ชะลอ เลยบอกให้ลองชะลอดู ปรากฎว่า เป็นอีโต้มอญขนาด 2.5 กก. ครับ ตายแล้วแบนตามน้ำมาเลยเบา อิอิ  ...เมาเลยตั้งเบรกไว้แข็ง..ธรรมดาครับอัดตัวเล็บ่อยๆก็เซ็งตั่งล่อมันแข็งๆ เลย....อาจจะโหดแต่ก็ไม่จุกจิกครับ

ไว้ทำปลาเค็มตากแห้ได้ล่ะครับ    
 เอา เป็นว่าไม่ยอมล่ะครับ ล่อ มรกตทองมาแระ ชื่นใจ กินเบียร์ต่อ อิอิ วางเบ็ดไว้ต่อ  ลากกันไปก็นานครับ 4.5 ชม  กว่าเรือจะแม่ไปถึงเรือ ที่หมาย
    อ่าววว......พูดมาตั้งนานยังอยู่ที่เรือแม่ครับเรื่องมันยาวขอบอกจะเล่าแบบ ละเอียดเลยล่ะครับสำหรับทริปนี้  สี่ชั่วโมงครึ่งก็ล่อไอ้สากไป 6 ตัว ขนาด 4 กก ขึ้นไปทั้งนั้น แล้วก็ อีโต้มอญ 12 ตัว ประมาณ 2.5-3 กก  แล้วก็มีลากเสริมด้วยเหยือเชือกฟางสีแดง.... อิอิ ....เหยื่อพม่าครับ...
ลากได้ ปลาโอ ขนา 2-2.5 กก  24 ตัวครับ....เหยื่ออะไรก็สู้เชือกฟางกับปลาทูแขกไม่ได้ครับ เด็ดๆ...  


 
พอหมดแสง ก็คือหมดเวลาลาก ต่างคนก็เก็บเบ็ด แล้วมานั่งล้อมวง ซดเบียร์คุยเฮฮาฆ่าเวลาไปเรื่อยๆกว่าจะถึงเรือเป้าหมาย
   รอยยิ้มนักสู้......บนเรือแม่ของน้าเสม  
รูป ทีมงาน- ล่างสุดขวา คนที่เดินใส่เสื้อสีเทา น้าเสม... กำลังดูแลลูกเรือคัดปูจากเรือลูกด้วยอารมณ์ขำ....และยังพูดจาขบตลกคนอื่นๆ อย่างเป็นกันเอง


END


PART  1


   และ นี่คือบทเริ่มต้นสู่ทริปนี้ เป็นอันว่า เหยื่อที่ซื้อมา หมึก 5 กก ซื้อเอง  แถมพอลงจากเรือแม่ น้าเสมให้เหยื่อลูกปลา ทูแขก(เปาล๊าง) มา 4 เข่ง ครับ ตกยังไงหมดนี่   เอาไปเลยไม่คิดเงิน แหน๊ะ.....ดูเอาเองครับ  น่าเคารพขนาดไหน

ก็ขอจบบทแรกแล้วค่อยมาต่อบท 2 เด้อ จะสนุก

หรือไม่ ขอบคุณครับ